วันนี้แอดมินขอนำเสนอ รีวิวการ Renovate ตึกแถว 2 ชั้นครึ่ง ของทาง Mammoth Home ที่ทั้งสวย น่าอยู่ และดูอบอุ่น ด้วยการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นเจแปนนิส กับงบ 1.5 ล้านบาทมาแนะนำเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหรือสนใจการ Renovate บ้านกันนะครับ
หลังจากตามดูไอเดียรีโนเวทบ้านของคนอื่นมานานจนกลายเป็นงานอดิเรก ก็ถึงเวลาปรับปรุงบ้านของตัวเองสักที และเนื่องจากเป็นบ้านหลังแรก คุณ Mammoth Home เลยขอสารภาพว่าตื่นเต้นมาก ๆ และถือโอกาสนี้มาเล่าการแปลงโฉมบ้านครั้งนี้ให้ทุกคนได้ชมกัน
ตัวอาคารเป็นตึกแถว 2 ชั้นครึ่ง จำนวน 1 คูหา หน้ากว้าง 4 เมตร ความลึก 12 เมตร ด้านบนมีดาดฟ้า พื้นที่ใช้สอยประมาณ 180 ตร.ม. สภาพเดิมทั้งภายในและภายนอกไม่ต่างจากภายนอกของตึกแถวที่เห็นกันทั่วไปเท่าไรนัก บรรยากาศก็ค่อนข้างมืดทึบเพราะมีหน้าต่างและช่องแสงน้อย ดังนั้นจุดที่ทำใหม่หลัก ๆ ได้แก่ เปลี่ยนเลย์เอาต์ห้อง พื้น ผนัง ฝ้า ระบบไฟฟ้า-น้ำประปา รวมถึงรีโนเวทห้องน้ำใหม่
เริ่มจากขึ้นแบบด้วยตัวเอง เพราะพอจะมีความรู้โปรแกรมการออกแบบอยู่บ้าง ใช้คอนเซ็ปต์โมเดิร์นเจแปนนิส (Modern Japanese) โดยใช้สีขาวและสีไม้อ่อน ๆ เพื่อปรับบรรยากาศด้านในให้ดูกว้าง เพิ่มความสว่าง และดูอบอุ่นผ่อนคลาย และช่วยลบภาพตึกแถวแบบเดิม ๆ ออกไป อีกทั้งพื้นที่มีจำกัด ดังนั้นส่วนใหญ่เลยเลือกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินแทนแบบลอยตัว
บ้านอยู่ในซอยตัน เลยทำที่จอดรถในบ้าน แล้วเอาประตูเหล็กเดิมออกจะได้โล่ง ๆ ช่วยลดความอึดอัดของตึกแบบห้องแถวไปได้พอสมควร ส่วนประตูเราใช้เป็นบานประตูบ้านเลย เพราะโดยส่วนตัวชอบฟีลเปิดประตูบ้านมากกว่าดึงประตูเหล็กด้วย
หลายคนคงจะงงว่าทำไมที่จอดรถของเรามันพอดีกับขนาดรถจัง เราเอารถมาวัดกับพื้นที่จอดก่อน จากนั้นจึงเริ่มก่อผนังหน้าบ้านตามขนาดจริง ๆ ของรถเลย ส่วนพื้นเราปูกระเบื้องใหม่ให้ดูคลีนมากขึ้นค่ะ
เปิดประตูเข้ามาในบ้าน เราจะเจอโถงเล็ก ๆ ก่อน เราทำม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้าและวางกระจกให้เช็กตัวเองก่อนออกจากบ้าน (หรือแขกมาเยี่ยมบ้านจะแอบเซลฟี่ก็ได้นะคะ 555) แอบยกพื้นทางเข้าบ้านให้สูงขึ้นกว่าระดับพื้นที่จอดรถเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าบ้าน ได้ไอเดียมาจากบ้านของคนญี่ปุ่นค่ะ
เราทำการย้ายประตูห้องน้ำ เพราะประตูเดิมใกล้กับมุมทานอาหารมากเกินไป ตรงส่วนมุมทานอาหารเราบิวต์อินโซฟาเป็นรูปตัวแอล (L) เป็นการประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้นอีกเช่นเคยจ้า
ในส่วนของห้องทานข้าวและห้องครัว เราอยากให้ทั้งสองห้องนี้อยู่ในห้องเดียวกัน เลยทุบผนังเพื่อให้เปิดโล่งมากขึ้นและมีพื้นที่กว้างขึ้น แล้วปิดช่องแสงผนังเดิมด้านหลังบ้าน แต่ใช้ช่องแสงจากบล็อกแก้วด้านบนเพดานส่องลงมาแทน
เปลี่ยนจากครัวหลังบ้านที่ดูทึบ ๆ อึดอัด ด้วยสีโทนสว่างก็จะดูสบายตาขึ้นมาเลยค่ะ
ส่วนของห้องครัว มีการบิวต์อินเต็มพื้นที่ และเลือกโทนสีของครัวเป็นสีอ่อนทั้งหมด ให้ดูสะอาด กว้างโล่ง และไม่อึดอัด
ในส่วนของพื้นที่ห้องน้ำชั้นหนึ่งจะแคบหน่อย เราจึงต้องประหยัดพื้นที่โดยการใช้สุขภัณฑ์ขนาดเล็ก และซ่อนพัดลมดูดอากาศห้องน้ำไปออกทางหน้าบ้าน
ตรงนี้เป็นมุมจากบันไดด้านล่างมองไปด้านบน รูป After จะดูโล่งมากขึ้น เพราะผนังที่เรากรุเพิ่มช่วยบังแนวคานให้ไม่รกตา แต่ด้วยความที่เราใช้บันไดเดิมของบ้าน ทำให้บ้านหลังนี้มีลูกตั้งที่ค่อนข้างชันนิดหน่อยค่ะ
ช่วงของบันได เราเปลี่ยนวัสดุกรุผิวผนังด้วยแผ่นยิปซัม เพื่อความสวยงามในการซ่อนงานระบบไว้ในผนัง และลดเสียงรบกวนข้างบ้านด้วย พื้นบันไดเปลี่ยนเป็นพื้นแบบลามิเนต เพิ่มบัวขาว และเปลี่ยนด้ามราวจับใหม่
ชั้นลอยเดิมจะไม่มีประตูค่ะ มีแค่ระเบียงมากั้น เราเลยกั้นผนังทำเป็นห้อง จะได้ติดแอร์ด้วยค่ะ
ขึ้นบันไดมาจะเจอห้องนั่งเล่นชั้นลอยก่อนค่ะ ส่วนนี้มีการต่อพื้นออกไปให้เสมอแนวผนังที่ก่อใหม่ด้านล่าง ทำตู้เก็บของแบบบิวต์อินใต้บันไดและใช้ประตูบานเฟี้ยมเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย
ภาพมุมที่เราได้ต่อพื้นออกไป ทำเป็นมุมนั่งเล่นของลูกชาย และบิวต์อินตู้สำหรับเก็บของเล่นให้เป็นระเบียบ
ดีเทลมุมนั่งทำงานเน้นสีซอฟต์ ๆ มีม่านมู่ลี่กันแสง หรือจะเปิดชมวิวตอนคิดงานก็เพลิน ๆ ดีนะคะ
มุมนี้อยู่อีกด้านของห้องนั่งเล่น ทุบผนังและระเบียงออก เพื่อบิวต์อินเป็นมุมนั่งทำงาน เน้นตู้เยอะ ๆ เอาไว้เก็บของให้ไม่ดูรก
ส่วนกลางของห้องนั่งเล่นเป็นโซฟาดูทีวี เราเลือกทีวีขนาดกะทัดรัด เพื่อให้ระยะมองจากโซฟาดูแล้วสบายตาไม่อึดอัด
ห้องนอนของเรามีการทุบแนวผนังเดิมก่อน เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้นอย่างที่กล่าวไป แล้วก็ทำบิวต์อินเตียงและโซฟาด้วย
ห้องนอนเราตกแต่งโดยใช้สีเอิร์ธโทนให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น
มุมนั่งเล่นเล็ก ๆ ของเรา ได้บิวต์อินโซฟา และมีการกรุผนังเพิ่มเพื่อซ่อนเสา
เราได้กั้นห้องติดห้องนอนเพิ่มเพื่อทำเป็นส่วนห้องน้ำ ตัวเคาน์เตอร์ซิงค์ล้างมือจะแยกออกมาจากตัวห้องน้ำ และอีกด้านได้บิวต์อินเป็นตู้เสื้อผ้า แอบทำช่องไว้ใส่ตะกร้าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วจะได้ดูเป็นสัดส่วนค่ะ
เดินออกจากห้องนอนเรามา จะเจอห้องนอนของลูกชาย ส่วนนี้เราก็ทุบแนวผนังเดิมและก่อใหม่ เพื่อย้ายห้องน้ำเข้าไปอยู่ในห้องนอนลูกชายให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น
ห้องน้ำของเรา ได้แยกส่วนห้องอาบน้ำและห้องส้วมออกจากกัน แล้วเจาะช่องแสงเพดานให้มีแสงส่องลงมา เพื่อให้แสงช่วยลดความอับชื้นของห้องน้ำไปในตัว
ส่วนมุมในห้องก็เปลี่ยนหน้าต่างและกรุผนังหลบเสาเก็บให้ดูเรียบร้อย
ตรงข้ามกับทางขึ้นเรากั้นห้องเล็ก ๆ เป็นห้องพระไว้เป็นมุมสงบจิตเล็ก ๆ ในบ้านด้วย
มุมบันไดขึ้นไปดาดฟ้า เราติดไฟส่องตลอดทางเดินขึ้นโดยการเอาไฟเพดานมาติดบนผนัง
พอขึ้นมาถึงชั้นบนสุดจะเจอชั้นดาดฟ้า เราได้ทุบผนังทางออกและก่อแนวผนังใหม่เพื่อขยายห้องดาดฟ้าเป็นห้องซักล้าง ส่วนเพดานนี้เราจงใจทิ้งตะแกรงไว้ให้แขกที่มาเยี่ยมบ้านรู้ว่าบ้านเรารีโนเวทมานะ
เราทุบแนวผนังของทางขึ้นดาดฟ้า แล้วก่อระเบียงใหม่ให้ดูโล่งขึ้นเลย
ห้องซักล้างชั้นดาดฟ้าที่ทั้งทุบและก่อใหม่เน้นโทนสีขาวเช่นกันค่ะ
ดีเทลของมุมห้องซักล้าง เราใช้กระเบื้องสีขาวตัดกับไม้สีอ่อนให้ดูคลีน ๆ หน่อย
มุมมองจากด้านนอกห้องซักล้างที่ดาดฟ้า เราต่อขยายและมุงหลังคาเมทัลชีท เจาะพื้นทำบล็อกแก้วให้แสงจากดาดฟ้าส่องลงไปถึงห้องน้ำชั้นสอง
ระเบียงดาดฟ้า เราเอาเหล็กฉีกมาทำตะแกรงรอบดาดฟ้าเพื่อกันขโมยและบังสายตาอีกชั้นนึงด้วยค่ะ
แอดมินต้องขอขอบคุณ Mammoth’s home กับการแชร์ประสบการณ์การ Renovate ในครั้งนี้ด้วยครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่สนใจในเรื่องการ Renovate บ้านทุกท่านครับผม