วันนี้แอดมินได้หยิบยกเอาประสบการณ์การซื้อทาวเฮ้าส์มือสองมา Renovate ของคุณ สมาชิกหมายเลข 2039763 มาแนะนำเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหรือสนใจจะ Renovate บ้านกันนะครับ
เริ่มจากเรากับแฟนพึ่งแต่งงานกัน เมื่อเดือน ธ.ค.ปี61 หลังจากแต่งงานเลยอยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ เลยมองหาซื้อบ้านสักหลัง เพราะคิดว่าต่อไปอนาคตจะต้องมีลูก ก็คืออยากสร้างความมั่นคงกันตั้งแต่อายุยังน้อยก็ว่าได้ เพราะกลัวว่าแก่ไปจะหากันไม่ไหว ทีนี้เราก็เริ่มเซิร์ชหาดูบ้านมือ 1 และมือ 2 เริ่มจากโซนบางบัวทอง บ้านมือ 2 ขายกันเยอะมาก ขับรถไปดูถึงที่ แต่ก็ยังไม่มีถูกใจ ด้วยโจทย์ของเราทั้ง2คนคือ
1.ราคา
2.บ้านต้องมีที่จอดรถ เพราะไม่อยากจอดรถนอกบ้าน และถ้าเพื่อนหรือญาติมาบ้านต้องมีที่จอด
3.การเดินทางมาทำงาน / ระยะทาง / การคมนาคม
4.สภาพแวดล้อม
5.ฝนตกแล้วน้ำท่วมถนนมากไหม
สรุปแถวบางบัวทอง ไม่ตอบโจทย์ เพราะเราทำงานแถวบางซื่อ แฟนทำงานแถวลาดพร้าว ถ้าต้องผ่อนบ้านแล้วต้องมาเสียค่าเดินทางในการมาทำงานอีกจะไม่ไหว จึงเริ่มมาดูบ้านแถวลาดพร้าว ก็หาจนถอดใจ เพราะมีแต่ราคา 2.5 ล้านขึ้น จนวันสุดท้ายจำได้ว่าจะไปดูแถวโซนรามอินทรา แต่แฟนพาขับรถเข้ามาดูในซอยนาคนิวาส 48 ย่านลาดพร้าว เพื่อจะพาไปดูบ้านหลังหนึ่ง ที่ประกาศขายในเว็ป แต่เราไปไม่ถึงบ้านหลังที่จะเข้าไปดู …..เราทั้งสองคนได้หันไปเห็นบ้านหลังที่เราซื้อมา แปะประกาศขาย (ตามสภาพ) เสียก่อน พร้อมเบอร์โทร เราก็ไม่รอช้า หยิบมือถือมากดโทรถามราคาเลยจ้า เจ้าของบ้านบอกว่าขายตามสภาพ หลังบ้านมีปลวกกิน เราก็เลยขอนัดดูบ้านเช้าวันถัดมา

หลังจากที่โทรคุยกับเจ้าของบ้านวันที่ 4 พ.ค.62 ตอนสายๆว่าจะขอนัดดูบ้านในวันต่อมา…คืนนั้นเรากับแฟนชวนกันขับรถวนเข้าไปดูบรรยากาศในซอยบ้านอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และเพื่อการตัดสินใจหลายๆอย่างในการซื้อ เจอข้างบ้านที่เป็นร้านขายอาหารตามสั่ง กำลังนั่งตั้งวงดื่มกันอยู่ เราเลยเปิดกระจกรถถามว่าหลังนี้ขายเท่าไหร่ ได้ข้อมูลจากข้างบ้านว่าขายราคา 1.3 ล้าน ซึ่งเจ้าของบ้านได้บอกกับเราตอนโทรถามเมื่อเช้าว่า 1.4 ล้าน (คงเผื่อต่อ) ทีแรกเราก็คิดว่าฟังราคาผิด เพราะแถวนั้นมีแต่บ้านราคา 2 ล้านขึ้น หรือบ้านเน่าๆเลยก็ 1.8-1.9 ล้าน ใจเต้นแรงขึ้นมาทันทีว่าจะได้บ้านราคาที่ถูกขนาดนี้ย่านลาดพร้าว71 จริงๆใช่ไหมเรา….ข้างบ้านก็แนะนำให้เรามาซื้อสิจะได้เป็นเพื่อนบ้านกัน (คิดในใจว่าอย่างน้อยข้างบ้านก็ดีนะ เพราะไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้าน แอบกลัวว่าจะเจอเพื่อนบ้านงี่เง่าเหมือนกัน) นั่งอยู่บนรถส่องมองเข้าไปในบ้านที่มืด แต่พอมีลมพัดมาเท่านั้น……ก็ได้กลิ่น….”ขี้แมว”……แรงมากกกก เห็นว่าในซอยนี้แมวเยอะก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แล้วกลับมารอลุ้นตอนเช้าว่าในบ้านจะเป็นอย่างไร….
รุ่งขึ้น เช้าวันที่ 5 พ.ค.62 เวลา 08.00 ก็มาถึงหน้าบ้าน พบเจ้าของบ้าน และเริ่มเดินเข้าไปดู ทาวโฮมหลังนี้มีขนาด 20 ตรว. มีแมวเดินเข้าออกบ้านกันประมาณว่าข้าคือเจ้าถิ่น วิ่งไล่กันบ้าง นอนหลับบ้างตามประสาแมว….ส่วนกลิ่นขี้แมวนั้นอยากบรรยายแบบให้ทุกคนได้กลิ่นตามไปด้วยเพื่อความอรรถรสในการอ่านและเสมือนจริง
แฟนเริ่มเดินเข้าไปดูในบ้านอย่างช้าๆ เราก็ไม่ได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้มากเท่าไหร่ เพราะมัวแต่อึ้งกับสภาพภายบ้าน พร้อมเอามือปิดจมูก เลยได้ภาพมาแค่ไม่กี่ภาพ

สภาพในบ้าน ห้องนั่งเล่น เราก็ไม่กล้าพูดไรมาก ได้แต่หันมามองหน้ากันกับแฟนเพราะพูดไม่ออกกับสภาพบ้าน





ต่อมาจะพาเพื่อนๆไปดูที่ชั้น 2 / มีห้องนอน 2 ห้อง และ 1 ห้องน้ำ
มาแล้วก็เดินดูให้ทั่ว บันไดขึ้นชั้น2






ส่วนนี่เป็นห้องนอนเล็กด้านหลัง เจ้าของบ้านทำห้องนี้เป็นห้องพระ ซึ่งเป็นห้องที่ดูสะอาดและสมบูรณ์ที่สุดในบ้าน

ต่อมาเป็นห้องน้ำของชั้น2 ซึ่งดูเหมือนไม่เคยมีการใช้งานมานานแล้ว

สภาพบ้านโดยรวมบ้านก็ประมาณนี้ค่ะ เราถามแฟนก่อนเลยว่าทำให้ใหม่ได้ไหม (แฟนทำงานเกี่ยวกับตกแต่งภายใน) แฟนบอกว่าทำได้ ซึ่งในใจเราไม่ได้รู้สึกรังเกลียดบ้านหลังนี้เลย เพราะถูกใจที่ราคา และมองเห็นว่าถ้าเราซื้อบ้านที่แพงกว่านี้เราก็ต้องเอามาทำใหม่อยู่ดี กลับมานอนคิดอยู่2คืน วันที่ 8 พ.ค.62 เลยตัดสินใจวางเงินมัดจำ เพื่อให้เจ้าของบ้านปลดป้ายกระกาศขาย และยื่นเอกสารกับธนาคาร
เราก็เตรียมเอกสาร ยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในวันที่ 10 พ.ค.62 และได้รับการติดต่อเข้ามาประเมินบ้านในวันที่ 29 พ.ค.62 เสียเงินค่าประเมิน 2,800.- บาท และได้มีการโทรแจ้งจากธนาคาร ในวันที่ 10 มิ.ย.62 ว่าได้รับการอนุมัติผ่านแล้ว เย้ๆๆ !!
และไปเซ็นต์สัญญากันในวันที่ 11 มิ.ย.62 ต่อมา วันที่ 12 มิ.ย.62 ก็ได้ไปโอนที่กรมที่ดินเป็นที่เรียบร้อย ใช้ระยะเวลานานกว่าเดือน…ต่อไปก็เป็นการเข้ารื้อบ้านเพื่อการเข้ารีโนเวท….น้ำมาเยอะแล้ว ต่อไปเข้าเนื้อเสียทีค่ะ
หลังจากทำเรื่องโอนซื้อขายกันเรียบร้อย ขั้นตอนต่อมาก็เริ่มเข้าเคลียของในบ้านที่เจ้าของเก่าทิ้งไว้ค่ะ
เริ่มจากชั้นล่าง รื้อทีแมลงสาปแตกฮือเป็นกองทัพ เรานี่วิ่งหนีออกมาหน้าบ้านแทบไม่ทันเลยค่ะ








ชั้นล่างพื้นเดิมเป็นไม้ปาร์เก้ แต่ก็ไม่ไหวที่จะซ่อมหรือมิอาจทนใช้ต่อ จึงต้องรื้อทิ้งอย่างเดียวค่ะ


ส่วนฝ้าชั้นล่าง เมื่อรื้อออกแล้ว พบเป็นคานไม้ของชั้นบน เนื้อไม้ยังสภาพดี เลยตัดสินใจเก็บไว้ไม่รื้อ


ขึ้นมารื้อฝ้าที่ชั้น2 ต่อค่ะ และหาจุดรั่วของหลังคาว่ามีไหม




ห้องนอนใหญ่ด้านหน้าบ้านชั้นบน มีประตูเปิดออกมาเป็นระเบียง ที่เจ้าของคนเก่าต่อเติมลงเสาเอาไว้แข็งแรง


ส่วนบันไดเดิมยังใช้งานได้ แต่ชันไปหน่อย (ถ้ารื้อทำใหม่ใช้เงินอีกหลายหมื่น) ใช้ของเดิมไปก่อนละกันเนอะ


เริ่มจากหน้าบ้าน โรงจอดรถถ้าจอดรถแล้ว 1 คัน มีพื้นที่เหลือเกินความจำเป็น เราเลยทุบ เพื่อขยายในตัวบ้านให้กว้างขึ้น เลยไม่ต้องการพื้นที่ตรงโรงจอดรถมากเท่าไหร่ แค่ทุบขยายออกมานิดหน่อยค่ะ (แถวคานปูน)









ต่อไปก็สกัดกระเบื้องเก่าในครัว ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องน้ำชั้นบนออก (สกัดออกยากมาก) เนื่องจากผนังเป็นอิฐบลอคมีความกลวง แล้วเป็นอิฐบลอคที่กันแค่ชั้นเดียวติดกับผนังข้างบ้าน ทะลุไปข้างบ้านเลยจ้า ช่างจึงต้องใช้ความระมัดระวังมากนิดนึงในการสกัดออกค่ะ




ส่วนเศษกระเบื้องก็เอามาถมหน้าบ้านไปเลย เพราะต้องการยกพื้นใหม่ให้สูงเท่ากับถนนหน้าบ้านค่ะ


ต่อมาก็เป็นการเช็ครอยรั่ว อุดรั่วหลังคา และต่อเติมหลังคาโรงจอดรถ






หมดงานทุบแล้วก็มาต่อกันด้วยงานปูน งานฉาบค่ะ จับเซี้ยม ผนังในบ้านทุกส่วนเราทำการสกิมโค้ทใหม่หมดทุกส่วนเพื่อความเรียบเนียบค่ะ



วางท่อระบบ น้ำดี – น้ำทิ้ง ใหม่ค่ะ


ส่วนระบบไฟ เดินสายไฟใหม่ทั้งหมด ร้อยท่อ PVC (ใจอยากได้ท่อเหล็กแต่เกินงบจ้า)









รื้อไม้จากหลังคาในครัวหลังบ้าน อันที่สมบูรณ์เอามาทำคานไม้ เพื่อซับเพดานในบ้าน
(เราตั้งใจจะไม่ใส่ฝ้า เพราะอยากให้เพดานดูโปร่ง) เปิดโล่งไปเล้ยยยย

ไปต่อกันที่งานปูกระเบื้องกันเลยจ้า
ชั้น 1 Living room เราใช้แกรนิตโต้ ขนาด 60×60′ A จากบุญถาวรค่ะ






มาต่อที่ชั้น 2 กันค่ะ อุดช่องว่างระหว่างข้างบ้านค่ะ กันหนู/กันเสียง

ชั้น2 ห้องนอนใหญ่ เริ่มทำโครงฝ้า ฉาบเรียบ


ที่ชั้น 2กลางวันชั้นบนค่อนข้างร้อน เราเลยเลือกที่จะฉีดโฟม โพลียูริเทน ชั้นบนทั้งหมด ในราคา 18,000.- บาท


เริ่มขัดพื้นไม้ชั้น2ค่ะ พร้อมกับซ่อมจุดที่มีปลวกกิน






ระเบียงชั้นบน เราเลือกที่จะก่ออิฐบลอคขึ้นมาเพื่อให้พรางตาจากฝั่งตรงข้ามและลมสามารถผ่านได้




ปูกระเบื้องระเบียง


เริ่มติดเฟลมอลูมิเนียมค่ะ ทั้งหลังเราจ่ายไป 48,000.- บาท






ประตูบ้านไม้สักได้มาจากซอยประชานฤมิตรค่ะ

เริ่มเป็นรูปเป็นร่างที่ดีขึ้นแล้วค่ะ






ใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้วค่ะแล้วค่ะ

เปลี่ยนสานเมนไฟใหม่ และเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้า จาก 5แอมป์ เป็น 15 แอมป์ เสียค่าธรรมเนียม 2,700.- บาท







ติดโคมไฟโรงจอดรถ ไฟในบ้าน แล้วก็ติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำจ้าา



ระยะเวลาที่เริ่มเข้าทำบ้านตั้งแต่ 21 มิ.ย.62 – เสร็จเมื่อ ธันวาคม 2562 ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 6 เดือน
เนื่องจากแฟนต้องทำงานที่บริษัท ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาดูงานที่บ้าน เลยทำให้เสร็จช้า ทำได้จริงจังก็วันเสาร์-อาทิตย์
แต่เราสองคนก็ตั้งใจที่จะเข้าอยู่ปี2563 อยู่แล้ว เลยทำไปเรื่อยๆ…โพสนี้ จขกท หวังว่าจะสร้างแรงบันดารใจให้กับเพื่อนหลายๆคนได้นะคะ ในการทำบ้านที่ เละ ให้กลับมาน่าอยู่ มีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ขอบคุณทุกๆการติดตาม และรออ่านจนจบโพสค่ะ
ปล.บางขั้นตอนการทำ เราอาจจะลงสลับขั้นตอนไปบ้างก็ขออภัยด้วยค่ะ








ทางแอดมินต้องขอขอบคุณ คุณ สมาชิกหมายเลข 2039763 กับการแชร์ประสบการณ์การซื้อทาวเฮ้าส์มือสองมา Renovate นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่สนใจในเรื่องการ Renovate บ้านทุกท่านครับผม